Chamonix Mont blanc

Chamonix Mont blanc


เมืองนี้ อยู่ในหุบเขาที่เป็นแนวยาวของ French Alps ระหว่างชายแดน สวิส และ อิตาลี highlight คือ ยอด mont blanc ซึ่งสูงสุดในเทือกเขา Alps
ที่นี่ ที่พักเยอะมาก มีตั้งแต่ budget ยัน luxury ตัวเมืองอยู่ตรงกลาง มีสถานี บัสและรถไฟอยู่ ตัวเมืองทอดเป็นแนวยาวโดยมี local bus เชื่อมเกือบทุกจุด ที่เป็น telepherique ( cable car ) และ trail head trekking track


ผมมาถึงนี่ ค่ำไปไหนไม่ได้ นอน รุ่งขึ้นดูฟ้าไม่ดีเลย เมฆเยอะมาก ดูพยากรณ์ มีเมฆทั้งวันแต่พรุ่งนี้ฟ้าโปร่ง เลยบอกที่พักขอพักต่ออีกสองคืน จะ trekking วันแรก อากาศไม่ดี เอาแบบง่ายๆ ไม่ต้องดูวิวมาก แต่จะไปดู glacier เทือกเขาที่ขนาบเมืองมีสองฝั่ง ฝั่งนึงเป็นแนว french alps โดยอีกด้านคือ อิตาลี จะเห็นยอด mont blanc เกือบทุกจุดในเมือง อีกฝั่งเป็นแนวเขาที่เป็นป่า Alpine แต่ไม่สูงเท่ากับฝั่งแรก

การเทรคกิ้งที่ดีสุดที่นี่ คือ เดินไปอีกฝั่ง แล้วมองมาที่ฝั่ง french alps ( ทั้งสองฝั่ง มีเคเบิลคาร์ ขึ้นไปจุดชมวิวหลายจุด แต่สองเดือนนี้ ทุกแห่งปิดซ่อมหมด ใครมาตอนนี้ อดขึ้น ) เนื่องจาก อากาศไม่ดี ผมเลยเลือกเดินฝั่ง french alps ( เมืองนี้มี trekking trail เยอะมาก ) ฝั่งนี้ เกือบทุก เทรล จะขนานไปกับ แนว glacier มีหลาย glacier เลิอกอันที่ใกล้ที่พักที่สุด ปีนไปดู glacier แล้วลงมา ครึ่งวันจบแล้ว ( เส้นทางไป glacier แต่ละแห่ง เมื่อใกล้ถึง glacier ให้เดินระวังๆ จะมี rock falling ตลอด การเดินตามแนว glacier จะเดินบนหิน เส้นทางต้อง กำหนดเอง ถ้าไม่เคยเดินไม่แนะนำ )

จบวันแรก
กลับที่พัก เตรียมเทรควันที่สอง โดยจะไป เดินเขาอีกด้าน จุดหมายที่จะไป คือ refuge de lac blanc ตัว refuge ตอนนี้ปิดไปค้างไม่ได้ ทะเลสาบ ตรง refuge คือ highlight ( แต่พอไปถึงผิดหวัง มัน frozen เกือบหมด ) และเส้นทางเดินที่มองมาฝั่งตรงข้ามจะมองเห็นเกือบทุก peak ของ french alps ( ถ้าใครจะมาเทรคที่นี่ แนะนำเดินตรงนี้ครับ )

พอศึกษาเส้นทาง จากแผนที่ มาเทียบกับ gps ก็หาเส้นทางได้ไม่ยาก ผมต้องนั่งรถบัส ไป trail head ที่ Montroc แล้วข้ามทางรถไฟ ไปจุดเริ่มเดิน มันมีสองเส้นคือ upper และ lower ถ้ามาตอนนี้ อย่าไป upper ดูแล้วไม่น่าจะเดินได้ มันอยู่เหนือ snow line ขนาดเดินเส้นล่าง ใกล้ๆ ที่หมายยังต้องลุย หิมะหลายจุด ถ้าเส้นบนไปที่หมาย มันอยู่สูงขึ้นไปอีกเยอะ


หลังจาก พ้นแนวป่า ก็เป็นแนวหิน แทบไม่เจอคนเลย นานๆ สวนมาคนนึง พอออกจากป่ามามองไปที่อีกฝั่ง วิวแบบ panorama เลย เดินไปเรื่อยๆ ผ่านทะเลสาบหลายแห่ง ส่วนใหญ่ แห้งหรือไม่ก็เป็นน้ำแข็งแล้ว ปีนบันไดสีห้าแห่ง จนจะถึง refuge ตรงนี้ยากถึงยากมาก ทั้งชันทั้งลื่น ( หิมะ และ น้ำแข็ง ) สุดท้ายก็มาถึง นั่งกิน lunch box ดูทะเลสาบ เอาเพลงมานั่งฝั่ง อากาศไม่หนาวเลย เย็นสบาย

ถึงเวลาเดินลงอีกเส้น ( โครตโหด )หลังจากเดินมาถึงสถานีปลายทางเคเบิล เส้นทางแทบจะไม่มีราบ ชันตลอด พอเข้าไปในป่า เส้นทางเห็นมั่งไม่เห็นมั่ง บางช่วงต้อง slide ตัวลงมา เดินไม่ได้เลย หัวทิ่ม หลงหลายครั้ง แต่ยังไง คือต้องลงอย่างเดียว จะไปถึงแนวถนนเอง สักพักได้ยินเสียงรถ ก็ค่อยๆเดินมั่ง ไหลมั่ง มาจนถึงถนน เดินตามถนน สักพักถึงป้ายรถเมลนั่งรถกลับที่พัก เส้นทางนี้ ใครจะมา highly recommend ร่างกายต้องฟิตเต็มร้อย ประสพการเดินป่าทุกแห่งในเมืองไทยมาเทียบไม่ได้ ถ้าใครเคยไปเดินที่ rinjani lombok ที่นี่พอๆกัน แต่ยากกว่าตรงจบวันเดียว แต่วิวสวยกว่ามากๆๆๆๆ

ถ้าไม่อยากเดิน มี เคเบิล แต่มันไปแค่จุดเดียว อยากไปที่ refuge ต้องเดินจาก สถานีเคเบิลขึ้นไปอีกยาว

 

Cr.Tony Thinnakorn Poonvasin