เสน่ห์อาคิตะ ที่ไม่อยากให้คุณพลาด
เที่ยวอาคิตะ ชื่อเมืองมาจากสุนัขสายพันธุ์อาคิตะเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดอาคิตะแห่งนี้ และยังได้ถูกกำหนดให้สายพันธุ์นี้เป็นสปีชีส์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองระดับชาติ มีภาพยนตร์จำนวนหลายเรื่องที่มีสุนัขสายพันธุ์อาคิตะร่วมแสดงด้วย และสุนัขผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีนี้เป็นที่นิยมไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังไปไกลถึงประเทศอื่นๆ ด้วย
ทัวร์อาคิตะ โดย ซียูอะเกน เน้นเจาะลึก สัมผัสวัฒนธรรม จึงเหมาะกับคนที่อยากไปมากกว่าการเห็นหรือเที่ยว ทริปส่วนตัว คุณสามารถเลือกกิจกรรม หรือเทศกาลต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้เราวางเส้นทาง และออกแบบทริปของคุณได้ตามงบประมาณที่คุณมี บอกเราว่าคุณอยากไปญี่ปุ่นแบบไหน แล้วเราจะพาไป
เสน่ห์ของอาคิตะที่คุณต้องไปเก็บแต้ม หากคุณเป็นแฟนญี่ปุ่น
ปีศาจหิมะแห่งเขาโมริโยชิ
เป็นหนึ่งในสามของป่าไม้ที่ปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งยังดูงดงามน่าประทับใจแม้ในยามค่ำคืนอีกด้วย เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของต้นไม้ที่ปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง โดยการโดยสารกระเช้ากอนโดล่าจาก Ani Ski Resort ต่อด้วยเดินเท้าอีก 5 นาทีเพื่อไปถึงยอดเขาที่ที่ต้นไม้ตั้งอยู่
หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น
นิวโตออนเซ็นเป็นชื่อเรียกกลุ่มน้ำพุร้อนทั้งเจ็ดแห่งที่พบบริเวณเชิงเขานิวโต โดยมีสึรุโนะยุ เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นน้ำพุร้อนที่ซ่อนอยู่ในภูเขา ทิวทัศน์หิมะตก ณ ที่แห่งนี้เป็นภาพที่น่าประทับใจและให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้
ทะเลสาบโทวาดะ
ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอาโอโมริ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ตามฤดูกาลอันงดงามได้ที่ทะเลสาบแห่งนี้ และยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลฤดูหนาวแห่งทะเลสาบโทวาดะในทุกๆ ฤดูหนาวอีกด้วย
ทะเลสาบทาซาวะ
เป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในญี่ปุ่นและได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในร้อยของสถานที่ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ สีของทะเลสาบจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับความลึกและมุมของน้ำที่แสงแดดตกกระทบผิวน้ำ ทะเลสาบอันน่าพิศวงแห่งนี้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า "ตำนานของเจ้าหญิงทัตสึโกะ"
รถไฟชมธรรมชาติสายอาคิตะ ไนริคุ
เส้นทางรถไฟท้องถิ่นยาวประมาณ 94.2 กม. จากทางเหนือไปยังทางใต้ของจังหวัดอาคิตะ รถไฟสายนี้จะเดินทางผ่านบริเวณที่เป็นแผ่นดินจากเมืองคะคุโนะดาเตะ หรือรู้จักกันในชื่อ "ลิตเติ้ลเกียวโต" ผ่านเมืองอานิไอ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมมาทะงิ ไปยังเมืองทะกะโนะสึ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของกลองไทโกะที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ
หมู่บ้านซามูไรในประวัติศาสตร์ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์ของคะคุโนะดาเตะเอาไว้ หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงอันเนื่องมาจากต้นซากุระแคระและต้นซากุระสายพันธุ์โยชิโนะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ รวมไปถึงต้นเมเปิ้ลและใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ถนนสายต่างๆ จะดูมีมนต์เสน่ห์อย่างยิ่งเมื่อปกคลุมไปด้วยหิมะ และย้ำเตือนให้ผู้มาเยือนระลึกถึงชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า "ลิตเติ้ลเกียวโตแห่งมิจิโนะคุ"
สวนสาธารณะเซนชู
สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำใกล้สถานีอาคิตะเพื่อชื่นชมทิวทัศน์ฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เป็นสถานที่ที่บูรณะขึ้นจากซากปราสาทคูโบตะและให้บรรยากาศของป้อมปราการที่มีศิลปะวัตถุมากมาย เช่น ประตูหลักปราสาทที่ตั้งตระหง่านบนพื้นดิน
น้ำตกโมะโตะทะคิ
น้ำตกโมะโตะทะคิได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในร้อยอันดับสุดยอดน้ำตกในญี่ปุ่น และน้ำตกแห่งนี้ยังทำให้นึกถึงโลกแห่งแฟนตาซีเมื่อทิวทัศน์ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธิ์ในฤดูหนาว
พิพิธภัณฑ์การ์ตูนมังงะ ตำบลมัตสึดะ เมืองโยโกเตะ
พิพิธภัณฑ์การ์ตูนมังงะแบบฉบับดั้งเดิมที่มีภาพเขียนต้นฉบับ ภาพถ่าย รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของนักเขียนมังงะต่างๆ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีคอลเลคชั่นชุดการ์ตูนมากกว่า 200,000 ต้นฉบับ ถือว่ามากที่สุดในญี่ปุ่น
เทศกาลหิมะที่ราบสูงทาซาวาโกะ
เทศกาลหิมะจัดขึ้นที่ Tazawako Ski Resort ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลสาบทาซาวะได้ สถานที่แห่งนี้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบำไฟ บ้านน้ำแข็งและการแสดงดอกไม้ไฟ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงไฟให้กับประติมากรรมหิมะต่างๆ ในช่วงเวลากลางคืนเพื่อสร้างบรรยากาศอันน่ามหัศจรรย์
เทศกาลสุนัขหิมะ อินุกโกะ
งานพื้นเมืองที่แสดงตุ๊กตาสุนัขที่ทำจากแป้งข้าว วางอยู่ที่ประตู เพื่อไล่ขโมย มีการจุดเทียนในโถงหิมะที่มีประติมากรรมหิมะรูปสุนัขตอนกลางคืน
เทศกาลหิมะโยโคเตะคามาคูระ
เทศกาลที่เป็นประเพณีดั้งเดิมนี้จะมีแท่นบูชาสำหรับบูชาเทพแห่งน้ำอยู่ภายในคามาคูระ (บ้านหิมะทรงคล้ายกระท่อมน้ำแข็ง) พร้อมด้วยเตาถ่านไว้ด้านในสำหรับให้ความอบอุ่นและย่างเค้กข้าว และจะมีการมอบอามาซาเกะ (ไวน์ข้าวหวานแบบอุ่น) กับเหล่าผู้มาเยี่ยมเยือนในช่วงเทศกาลนี้ คามาคูระจะดูสวยงามและดูคล้ายล่องลอยอยู่ท่ามกลางความมืดของเวลากลางคืน
ฮิบูริ คามาคูระ
เทศกาลอันน่าตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์วงแหวนไฟท่ามกลางหิมะ ถุงกระสอบใส่ถ่านจะมัดไว้ด้วยเชือกและจุดไฟให้ลุกโชนก่อนที่จะนำมากวัดแกว่งไปรอบๆ ตัว
เทศกาลหน้ากากปีศาจนามาฮาเกะ เซโดะ
เป็นหนึ่งในห้าเทศกาลหิมะใหญ่แห่งมิจิโนะคุ ระบำของนามาฮาเกะผู้ดุร้ายจะมีความระทึกและทรงพลังภายใต้แสงไฟจากกองไฟเซโดะที่ศาลเจ้าชินซัน
ไดนิชิโดะ บุกาคุ
ระบำและเพลงชุดที่ยึดถือเป็นประเพณีมากว่า 1,300 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากองค์การยูเนสโก กลุ่มคนที่รู้จักกันในชื่อ "โนชุ" ซึ่งมาจากตำบลที่กำหนดไว้จำนวน 4 ตำบล จะมารวมตัวกันที่ไดนิชิโดะในวันที่ 2 มกราคมของทุกปีเพื่อโชว์ระบำ
อินะนิวะ อุด้ง
อินะนิวะ อุด้งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในสามเส้นอุด้งที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องด้วยมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 300 ปี เส้นอุด้งนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม มีความหนาและเด้งแน่นกว่าเส้นโซเมน
คิริทัมโปะ
อาหารท้องถิ่นดั้งเดิมของจังหวัดอาคิตะ คือการนำข้าวหุงสุกใหม่ๆ มาตำและปั้นเป็นทรงกระบอกรอบๆ ไม้เสียบที่ทำมาจากไม้ซีดาร์ญี่ปุ่น จากนั้นนำไปย่างบนไฟจากถ่าน โดยทั่วไปมักจะบริโภคร่วมกับเมนูหม้อไฟ
หม้อไฟอิชิยากิ นาเบะ
เมนูหม้อไฟที่มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นตำรับอาหารท้องถิ่นของคาบสมุทรโอกะ เมนูนี้เป็นเมนูของชาวประมงที่ดัดแปลงได้หลากหลาย โดยจะเตรียมวัตถุดิบด้วยการใส่ส่วนผสม เช่น อาหารทะเลสดๆ ลงไปในอ่างไม้และปรุงสุกด้วยการใส่หินที่ผ่านการให้ความร้อนสูงถึง 400 องศาเซลเซียสลงในอ่าง
หม้อไฟชอตสึรุ นาเบะ
หม้อไฟที่ใช้น้ำปลาจากปลาฮาตะฮาตะ (ปลาทรายญี่ปุ่น) และมีรสชาติคล้ายน้ำปลา (ซอสจากปลาของไทย) ปลาฮาตะฮาตะ เป็นปลาชนิดพิเศษในหน้าหนาวของจังหวัดอาคิตะ และยังสามารถนำไปรับประทานด้วยการย่างหรือทำเป็นซูชิก็ได้
อิบุริกักโค
อาหารดองดั้งเดิมในจังหวัดอาคิตะที่มีหิมะตกนี้ จะทำมาจากการนำหัวไชเท้าไปแขวนไว้ด้านบนของกองไฟ (เพื่อป้องกันไม่ให้หัวไชเท้าที่ตากแห้งนี้แข็งตัวเมื่อทำการดอง) ก่อนจะนำไปดองในรำข้าว
นามาฮาเกะ ไทโคะ
นามาฮาเกะ ไทโคะมีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการแสดงพื้นเมืองในจังหวัดโอกะ ซึ่งรวมนามาฮาเกะของโอกะเข้ากับกลองไทโกะดั้งเดิมของญี่ปุ่น การแสดงสดที่หมู่บ้านโอกะ ออนเซ็นเคียวนั้นน่าทึ่งและตื่นตาตื่นใจอย่างมาก
การเดินทางไปอาคิตะ
1. เครื่องบิน การเดินทางโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อไปยังจังหวัดอาคิตะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โมงจากเมืองโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ), ซัปโปโร, โอซาก้า, และนาโกย่า โดยในจังหวัดอาคิตะแห่งนี้มีสนามบินอยู่ถึง 2 แห่งด้วยกัน คือสนามบินอาคิตะและสนามบินโอดาเตะ โนชิโระ ซึ่งสะดวกมากที่จะเดินทางมาที่เมืองแห่งนี้จากที่ใดๆ ก็ได้ (มีเที่ยวบินทุกวันจำนวน 5 เที่ยวบินจากกรุงเทพไปฮาเนดะ)
2. รถบัส คุณสามารถโดยสารรถบัส Akita Airport Liner จากสนามบินไปยังจุดหมายปลายทางของคุณได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนเที่ยวรถไฟให้ยุ่งยาก!
3. รถไฟ การเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) เพื่อไปยังจังหวัดอาคิตะจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจากเมืองโตเกียว โดยตั๋วรถไฟ JR Rail Pass เป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะสามารถใช้เดินทางไปยังจังหวัดอาคิตะได้
สนใจจองตั๋วเครื่องบินไป Akita บินไปกับสายการบิน ANA
จองตั๋วได้ที่นี่ https://www.ana.co.jp/th/th/japan-travel-planner/akita-winter-01/
BLOG
- หริ่นแนะนำเที่ยวอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
- หริ่นแนะนำตลาดปลานิโจ (Nijo Market) เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
- หริ่นแนะนำเมืองโอตารุ (Otaru) ในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
- หริ่นแนะนำซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลักของฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
- หริ่นแนะนำเที่ยวโอโมเตะซันโด (Omotesando) โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น